วัดศรีสุมังค์วนาราม หรือ วัดช้าง หรือ วัดเจ้าคุณพระยา อ.เมือง จ.มุกดาหาร เนื่องจากเป็นวัดที่พระยาศศิวงษ์ประวัติ (เมฆ จันทรสาขา) ตลอดจนเจ้าเมืองมุกดาหารทุกพระองค์ในอดีตและทายาทบุตรหลานในตระกูลเจ้านายเมืองมุกดาหารเป็นเจ้าอุปถัมภ์ ชาวท้องถิ่นมักเรียกชื่อวัดสั้นๆ ว่า “วัดศรีสุมังค์”
วัดศรีสุมังค์วนาราม ตั้งอยู่ ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนดำรงค์มุกดา ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร มีอายุเก่าแก่กว่า ๒๐๐ ปี มีเนื้อที่ ๕ ไร่ ๑ งาน ๒๕ ตารางวา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๙ ในรัชสมัยพระยาจันทรศรีสุราชอุปราชามันกธาตุราช (เจ้าจันทกินรี หรือ เจ้ากินรี) เจ้าเมืองมุกดาหารคนแรกซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองมุกดาหาร หรือ เมืองบังมุก เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๓ (ค.ศ. 1770)
วัดศรีสุมังค์วนารามได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๓ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์นิกายมหานิกาย ถือเป็นวัดแรกๆ ในสมัยพระจันทรสุริยวงษ์ ครั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองมุกดาหาร โดยมีเจ้าอาวาสพระครูสีเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และมีพระครูสุทธิภักรคุณ เป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

ภายในวัดศรีสุมังค์วนาราม มีจุดเด่นเป็นวิหารเก่าและพระธาตุพนมองค์จำลอง มาจากวัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม บริเวณวิหารมีจารึกไว้บนหน้าบันว่า “วัดศรีสุมังค์ สร้างปี พ.ศ. ๒๔๗๓” ตัววิหารเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากตึกสไตล์ยุโรป เช่น บริเวณส่วนโค้งประตู บริเวณราวบันได และบริเวณช่องระบาย เป็นต้น

รูปแบบวิหารสร้างเป็นวิหารทึบ มีทางเข้า-ออกทางเดียวกัน มีฐานต่ำ ส่วนของระเบียงมุขหน้าทำเป็นช่องระบายอากาศ ก่ออิฐถือปูน หลังคาสองชั้นมุงด้วยกระเบื้อง ตัวลำยองแกะเป็นรูปพญานาค ด้านหน้ามีมุขที่ติดกับตัววิหารแบ่งเป็นสามช่อง มุมบนโค้ง ช่องกลางใหญ่เชื่อมไปยังประตู ราวบันไดปั้นเป็นพญานาคเจ็ดเศียร แลเห็นได้ชัดว่าเป็นการปั้นขึ้นมาใหม่ในยุคหลัง
ด้านหน้ามีหน้าต่างมุมโค้งสามช่อง บานหน้าต่างทำด้วยไม้แกะสลัก สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างพื้นบ้านผสมผสานกับช่างญวน ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก มีพุทธลักษณะศิลปะแบบลาว
เรือมณฑล
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๔ พระยาศศิวงษ์ประวัติ (เมฆ) เมื่อครั้งเป็นที่พระจันทรเทพสุริยวงษ์ เจ้าเมืองมุกดาหาร ได้ทำการชักชวนประชาชนชาวเมืองมุกดาหารร่วมแรงร่วมใจกัน เสาะหาต้นตะเคียนในเขตเมืองมุกดาหารจนพบต้นตะเคียนที่งดงามและสูงใหญ่ที่สุดของเมือง ณ ดงบักอี่ หรือ ดงบังอี่ บริเวณท้องที่อำเภอดอนตาลต่อเขตแดนอำเภอนิคมคำสร้อย แล้วนำมาขุดถากสำเร็จเป็นเรือเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๓๖

เรือมณฑลเคยเป็นเรือรับเสด็จเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ พระองค์เจ้าชายดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เสด็จมาตรวจราชการภาคอีสาน บริเวณมณฑลอุดรและมณฑลร้อยเอ็ด พระองค์ได้ประทับบนเรือมณฑลเพื่อล่องแก่งในลำแม่น้ำโขงจากเมืองธาตุพนมมายังเมืองมุกดาหารเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๙
เรือมณฑลเคยลงน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๖ หลังจากนั้นได้เก็บรักษาไว้ ณ วัดศรีสุมังค์ นับถือกันว่าเป็นเรือประวัติศาสตร์ของชาติและเป็นโบราณวัตถุหรือสมบัติอันล้ำค่าของชาวเมืองมุกดาหาร ต่อมาชาวเมืองมุกดาหารจึงได้ปรึกษาหารือร่วมกัน เพื่ออนุรักษ์เรือไว้ไม่ให้ทรุดโทรมและได้บูรณะซ่อมแซมเรือมณฑลแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๙
เมื่อพระยาศศิวงษ์ประวัติ (เมฆ) ถึงแก่กรรมแล้ว ทายาทและบุตรหลานได้สร้างพระเจดีย์บรรจุพระอัฐิไว้ ณ วัดศรีสุมังค์วราราม หรือวัดสีสุมัง (วัดช้าง) พระเจดีย์บรรจุพระอัฐิพระยาศศิวงษ์ประวัติ (เมฆ) หรือพระธาตุเจ้าคุณพระยา ตั้งอยู่ระหว่างพระวิหารและสิม หรือพระอุโบสถบริเวณด้านหน้าพระเจดีย์ขนาดใหญ่อิทธิพลทางศิลปกรรมจากพระธาตุพนม


พระเจดีย์บรรจุพระอัฐิมีลักษณะคล้ายพระเจดีย์ศรีสองรัก (พระธาตุสีสองฮัก) อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เป็นพระเจดีย์ขนาดเล็กและเตี้ย มีถ้าน (ฐาน) ธาตุรูปแอวขัน ๒ ชั้น ไม่ปรากฏตีนธรณีหรือถ้านลุ่ม (ฐานล่าง) เรือนธาตุหรือองค์ธาตุเป็นรูปดอกบัวจูม (ดอกบัวตูม) หรือหมากน้ำเต้าประดับลายปูนปั้นนูนต่ำเป็นรูปดอก ๔ กลีบ มีทั้งดอกขนาดเล็กและดอกขนาดใหญ่ทาสีทอง

บริเวณมุมเรือนธาตุเป็นรูปดอกกาบทิศหรือดอกกระจังทาสีทอง ยอดธาตุประกอบด้วยตีนหีบและดวงปลี ปลายยอดสุดเป็นรูปน้ำค้างหรือดอกบัวจูม (ดอกบัวตูม) ทาสีทอง ทั้งองค์พระเจดีย์ทาสีขาวเป็นพื้น ด้านหน้าของพระเจดีย์มีแผ่นป้ายภาพและประวัติโดยย่อของพระยาศศิวงษ์ประวัติ (เมฆ จันทรสาขา)
แผนที่และการเดินทางมายังวัดศรีสุมังค์ อ.เมือง จ.มุกดาหาร
ภายในวัดศรีสุมังค์วนารามสามารถจอดรถยนต์ได้ประมาณ 15 คัน นักท่องเที่ยวสามารถนำรถยนต์เข้าไปจอดได้ (ค่าจอด 20 บาท) รวมถึงจอดรถยนต์บริเวณซอยด้านข้างวัดได้โดยไม่เสียค่าจอดครับ